นโยบายพันธกิจเพื่อสังคม
กลุ่มบริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาว และเป็นผู้ผลิตหลักที่สนับสนุนการเติบโตของภาคการก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย ตระหนักถึงบทบาทสำคัญต่อสังคมและชุมชนรอบข้าง จึงมุ่งมั่นดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
บริษัทมีเป้าหมายในการ พัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบ ผ่านการสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยแนวทางนี้สอดคล้องกับค่านิยมของกลุ่มทาทาในเรื่อง “ความรับผิดชอบ” ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว บริษัทได้จัดสรรทรัพยากรที่จำเป็น พร้อมสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทในกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างเหมาะสม รวมถึงสนับสนุนให้พนักงานและคู่ค้าตระหนักถึงบทบาทของตนในการมีส่วนร่วมและรับผิดชอบต่อชุมชนและผู้มีส่วนได้เสียรอบด้าน
กิจกรรมพันธกิจเพื่อสังคมของบริษัทจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม โดยเน้นผลกระทบเชิงบวกที่วัดได้ และส่งเสริมความร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคม เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีและยั่งยืนให้กับสังคมไทย
ขอบข่ายที่มุ่งเน้นของพันธกิจเพื่อสังคม บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยมุ่งเน้นกิจกรรมพันธกิจเพื่อสังคมในด้านต่างๆ ดังนี้
- การส่งเสริมประเพณีท้องถิ่น วัฒนธรรม และการศึกษา ทรัพยากรธรรมชาติ
- การเสริมสร้างสุขภาพ อนามัย ความปลอดภัยในชุมชน การอนุรักษ์สภาพแวดล้อมและการฟื้นฟู
- การสนับสนุนความหลากหลาย ความเสมอภาค และการไม่แบ่งแยก
- การสร้างรายได้และการพัฒนาทักษะของชุมชน
พื้นที่ที่บริษัทมุ่งเน้นในการพัฒนากิจกรรม พันธกิจเพื่อสังคมจะเป็นพื้นที่รอบบริเวณสถานประกอบการของบริษัท ภายในรัศมี 5 กิโลเมตรของโรงงานและสํานักงานใหญ่ โดยบริษัทอาจให้การสนับสนุนกิจกรรมของจังหวัดอื่นๆ ทั่ว ประเทศเป็นครั้งคราว รวมถึงองค์กรที่ไม่แสวงหากําไร การสนับสนุนโครงการค่ายอาสาพัฒนาของนักศึกษา มหาวิทยาลัยต่างๆ การบ่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ในขณะที่บริษัทเชื่อมั่นว่าชุมชนทั้งหมดจะได้รับประโยชน์จาก กิจกรรม นธกิจเพื่อสังคมของบริษัท การมุ่งเน้นจะให้ไปที่การช่วยเหลือกลุ่มคนผู้ด้อยโอกาสทางสังคมและ เศรษฐกิจ ไร้ผลกระทบโดยตรงจากการดาเนินงานของบริษัท
แนวทางการดำเนินพันธกิจเพื่อสังคม
บริษัทขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคมภายใต้หลักการสำคัญ 4 ประการ ได้แก่:
- ผลกระทบ (Impact)
ทุกโครงการจะมีตัวชี้วัดผล (KPIs) ที่ชัดเจน เพื่อติดตามและประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเป้าหมาย พร้อมนำข้อมูลไปใช้ในการปรับปรุงหรือออกแบบโครงการใหม่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น - ความเป็นหุ้นส่วน (Partnership)
บริษัทส่งเสริมการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภายในและภายนอก เช่น หน่วยงานรัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา วิสาหกิจชุมชน และคู่ค้าทางธุรกิจ เพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากรและความเชี่ยวชาญ สร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและขยายขอบเขตกิจกรรมเพื่อสังคม - จิตอาสา (Volunteering)
สนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมจิตอาสาในชุมชนที่ตนอยู่อาศัยและทำงาน เพื่อเชื่อมโยงองค์กรกับชุมชนอย่างลึกซึ้ง พร้อมทั้งพัฒนาทักษะและความตระหนักรู้ด้านสังคมของพนักงาน - การสื่อสาร (Communication)
เปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อนำมาพัฒนากิจกรรมให้ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
การกำกับดูแล
การดำเนินงานด้านพันธกิจเพื่อสังคมของบริษัทอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ คณะกรรมการพันธกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน ซึ่งมีหน้าที่ทบทวนและปรับปรุงนโยบายอย่างสม่ำเสมอ โดยการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ต้องผ่านการพิจารณาและอนุมัติจาก คณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการฯ ยังมีหน้าที่นำเสนอ แผนธุรกิจประจำปีด้านพันธกิจเพื่อสังคม เพื่อขออนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทอีกด้วย
นโยบายฉบับนี้ได้รับการทบทวนครั้งล่าสุดในปี 2557 และได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการโดยคณะกรรมการบริษัทในเดือน ตุลาคม 2567